จ้าววรยุทธ์
Sex : Post : 1767 สมาชิกลำดับที่ : 372 |
|
อ้อม.......
ต้อยยกข้อความมาให้เพื่อน ๆ บ้านนี้ดูความคืบหน้าของการทำเอกสารจ้า เขียนไว้หมดแล้ว ขอบคุณ PK กับ อ้อมที่ช่วยกันนะจ๊ะ
............................................................................
เพื่อน ๆ
วันอาทิตย์ที่ไปเยี่ยมปื๊ดจะเอาเอกสารของอโรคยาศาลที่ต้อย Print ออกมา 22 หน้า ไปให้ปื๊ดอ่าน เผื่อจะไปรักษาที่วัดคำประมง อ้อมได้เว็บนี้มาจากเพื่อน SCG ที่ศิริราช ส่งมาให้ แล้ว PK(ปรีชา) ได้จัดเรียงจาก web เป็นในรูป file ส่งมาให้ต้อยทาง e-mail แล้วต้อยจัดการ print สีเข้ารูปเล่มเสร็จเรียบร้อย ถ่ายรูปส่งมาให้เพื่อน ๆ ดู ข้างล่างคือ web ของอโรคยาศาล วัดคำประมง จ.สกลนคร
http://pineapple-eyes.snru.ac.th/alo/?q=node/42
ขอนำบทความบางตอนจากอโรคยาศาลมาให้เพื่อนอ่านกันเล็กน้อยเผื่อบางคนอาจจะยังไม่รู้จัก
ความหมายของอโรคยศาล
อโรคยศาล มีความหมายตรงว่า สถานที่ซึ่งปราศจากโรค หมายถึง สถานอภิบาลพักฟื้นผู้ป่วยด้วยสมุนไพรตามธรรมชาติไปจนกว่าอาการของผู้ป่วยจะทุเลาเบาบางลงไป หรือหมดไปสิ้นไปด้วยวิถีแห่งธรรมะและธรรมชาติบำบัดและหรือการแพทย์แบบองค์รวม โดยมีความเป็นมาจากอารยธรรมขอม ซึ่งมีปรากฎบนหลักฐานตามตามบันทึกยุคสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งมีการเกณฑ์ผู้คนมากมายในการสร้างปราสาทวิหาร การก่อสร้างก็ใช้ระยะเวลาในการสร้างยาวนานหลายสิบปี ผู้คนมากมายต่างก็ล้มป่วยด้วยโรคต่าง ๆ นานาชนิด จึงเกิดความเชื่ออย่างหนึ่งว่า ถ้ามีการก่อสร้างปราสาทหินต่าง ๆ ให้จัดสถานที่อภิบาล บำบัดรักษาผู้ป่วยก่อน ซึ่งสถานที่นี้เรียกว่า อโรคยศาล เพื่อให้ผู้คนหายจากอาการเจ็บป่วยและมีเรี่ยวแรงในการสร้างปราสาทวิหารสำเร็จต่อไป
แต่ในปัจจุบัน ถ้าพูดถึงคำว่า อโรคยศาล ต้องนึกถึงอโรคยศาลวัดคำประมง หรือ THAI HERBAL NURSING HOME : สถานอภิบาลพักฟื้นผู้ป่วยด้วยสมุนไพรตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ ณ วัดคำประมง ตำบลสว่าง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ซึ่งหมายถึง สถานที่ทำการบำบัดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งแบบองค์รวม กล่าวคือผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนไทย(สมุนไพร), การแพทย์แบบแผน, การแพทย์แผนจีน(การฝังเข็ม), สมาธิบำบัด, ดนตรีบำบัด, ธรรมะบำบัด, มนตราบำบัด, และอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
เป้าหมายของการรักษาที่อโรคยศาลแห่งนี้ ไม่ได้อยู่ที่จะรักษาโรคให้หายหรือทุเลาเบาบางลงไปแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่อยู่ที่สามารถตอบสนองความต้องการตามธรรมชาติของผู้ป่วย ที่ต้องการความเข้าใจชีวิตและมีความสุขในช่วงที่เจ็บป่วย ถ้าหากว่าจะต้องเสียชีวิตก็เสียชีวิตไปอย่างสุขสงบ (ตายแบบยิ้มได้) ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของการปฏิบัติตามแนวทางศาสนาและวิทยาศาสตร์การแพทย์ ญาติและผู้ป่วยก็จะได้รับประโยชน์จากการช่วยดูแลผู้ป่วย ซึ่งจะมีผลในการปรับทัศนคติในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข และสามารถเข้าใจและดูแลตนเองไม่ให้ป่วยเป็นมะเร็งต่อไป
สวัสดี
|
|