ศูนย์รวมพบปะสังสรรค์ ชาววังสน ทุกรุ่น ศูนย์รวมพบปะสังสรรค์ ชาววังสน ทุกรุ่น
:: ศูนย์กลางพบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความรู้, ถาม-ตอบ, แนะนำ, ประกาศ, พวกเราชาววังสน ::

:: ท่านที่มาเยี่ยมชมเป็นครั้งแรก กรุณาสมัครสมาชิกก่อนครับ ::

 


Home  กลับหน้าหลัก  สมัครสมาชิก  ตั้งกระทู้ใหม่  แก้ไขข้อมูลสมาชิก  ลืมรหัสผ่าน  พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์



ขอเชิญร่วมตอบกระทู้ครับ



  ขอเชิญพี่ น้อง ผองเพื่อน พ.พ. 2519 มาคุยกันที่นี่ขอรับ (Volume 31)
   pk
 Posted : 14 พ.ค. 2552  เวลา 13:47:33

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
คลิ๊กที่ภาพ

สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต...ไม่ได้อยู่ที่การได้ชัยชนะ
หากแต่เป็นการช่วยให้ผู้อื่นได้รับชัยชนะ ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เราต้องช้าลง หรือ บางที ถึงกับต้องเปลี่ยนเส้นทางของเราก็ตาม

 

มาดมั่น มาดแมน
  IP : (194.151.64.237)
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
แสดงความคิดเห็น

   pk
 Posted : 15 พ.ค. 2552  เวลา 23:27:39   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
นิทานเรื่อง มันฝรั่ง - Potatoes Story..

คุณครูในโรงเรียนสอนเด็กอนุบาลแห่งหนึ่งตัดสินใจที่จะให้เด็กนักเรียนในชั้นของเธอเล่นเกมได้ ดังนั้นเธอจึงบอกให้เด็กนักเรียนแต่ละคนในชั้นนำมันฝรั่งใส่ถุงพลาสติกมาจำนวนหนึ่ง บนมันฝรั่งแต่ละหัวให้เขียนชื่อคนที่รังเกียจไว้ ดังนั้นจำนวนหัวมันฝรั่งที่เด็กนักเรียนใส่ไว้ในถุงของเขาจะขึ้นกับจำนวนคนที่เขารังเกียจไม่ชอบ
A kindergarten teacher has decided to let her class play a game. The teacher told each child in the class to bring along a plastic bag containing a few potatoes. Each potato will be given a name of a person that the child hates, so the number of potatoes that a child will put in his/her plastic bag will depend on the number of people he/she hates.

และเมื่อถึงวันกำหนด เด็กๆ ทุกคนก็นำฝรั่งที่มีชื่อคนที่เขารังเกียจติดตัวมา บางคนมีมัน 2 หัว บางคนมีมัน 3 หัว ในขณะที่บางคนมีถึง 5 หัว จากนั้นคุณครูได้สั่งให้เด็กนักเรียนนำมันฝรั่งของตนเองใส่ถุงถือติดตัวไปทุกๆ แห่ง (แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ) เป็นระยะเวลา 1 อาทิตย์
So when the day came, every child brought some potatoes with the name of the people he/she hated. Some had 2 potatoes; some 3 while some up to 5 potatoes. The teacher then told the children to carry with them the potatoes in the plastic bag wherever they go (even to the toilet) for 1 week.

หลังจากที่หลายๆ วันผ่านไป พวกเด็กนักเรียนก็เริ่มบ่นถึงกลิ่นที่ไม่สู้จะดีที่ออกมาจากมันฝรั่งซึ่งเริ่มจะเน่า นอกจากนั้นเด็กที่มีมันฝรั่ง 5 หัวก็ยิ่งบ่นที่ต้องถือถุงหนักกว่าคนอื่น เมื่อเวลา 1 อาทิตย์สิ้นสุดลง พวกเด็กนักเรียนจึงได้รู้สึกปลดปล่อยเพราะเกมได้จบลงแล้ว
Days after days passed by, and the children started to complain due to the unpleasant smell let out by the rotten potatoes. Besides, those having 5 potatoes also had to carry heavier bags. After 1 week, the children were elieved because the game had finally ended....

คุณครูถามว่า “พวกเธอรู้สึกอย่างไรกับการที่ต้องถือมันฝรั่งติดตัวอยู่ 1 อาทิตย์” พวกเด็กนักเรียนจึงระบายความหงุดหงิดไม่พอใจออกมา และบ่นถึงความลำบากที่พวกเขาต้องเจอจากการที่ต้องถือถุงมันฝรั่งที่ทั้งหนักและส่งกลิ่นเน่าเหม็น
The teacher asked: "How did you feel while carrying the potatoes with you for 1 week?". The children let out their frustrations and started complaining of the trouble that they had to go through having to carry the heavy and smelly potatoes wherever they go.

หลังจากนั้นคุณครูจึงได้อธิบายให้พวกเด็กได้ทราบถึงความหมายแท้จริงที่ซ่อนอยู่ในเกม คุณครูกล่าวว่า “นี่เป็นเหมือนกับสถานการณ์จริงๆ เมื่อเราต้องแบก เก็บความเกลียดชังผู้อื่นไว้ในใจ มลพิษของความเกลียดชังจะกัดกร่อนใจของเรา และติดไปกับตัวเราในทุกๆ ที่ที่เราไป ถ้าขนาดที่เรายังทนไม่ได้กับกลิ่นเน่าเหม็นของมันฝรั่งในช่วง 1 อาทิตย์ ลองคิดดูว่ามันจะเป็นเช่นไร ถ้าเราแบกเก็บความเกลียดชังไว้ในใจตลอดชั่วชีวิต ?”
Then the teacher told them the hidden meaning behind the game. The teacher said: "This is exactly the situation when you carry your hatred for somebody inside your heart. The stench of hatred will contaminate your heart and you will carry it with you wherever you go. If you cannot tolerate the smell of rotten potatoes for just 1 week, can you imagine what is it like to have the stench of hatred in your heart for your lifetime???"

คติสอนใจจากนิทานเรื่องนี้ คือ :
Moral of the story:

โยนทิ้งความเกลียดชังผู้อื่นออกไปจากใจของคุณ เพื่อที่ว่าคุณจะได้ไม่ต้องแบกรับบาปนี้ไปชั่วชีวิต ให้อภัยผู้อื่นถือเป็นทัศนคติที่ดีที่สุดที่ควรยึดถือไว้ รักชื่นชมผู้อื่นแม้ว่าคุณจะไม่ชอบพวกเขา
Throw away any hatred for anyone from your heart so that you will not carry sins for a lifetime. Forgiving others is the best attitude to take! Love others even if you do not like them

ความรักที่แท้จริงนั้นไม่ใช่การรักชอบบุคคลที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าสมบูรณ์แบบ
True love is not loving a perfect perfect person

แต่เป็นการรักชอบชื่นชมบุคคลที่ไม่สมบูรณ์แบบให้สมบูรณ์มากๆ
but loving an imperfect person perfectly!

 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 201
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 15 พ.ค. 2552  เวลา 23:34:07   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
คม.199
ราตรีสวัสดิ์ลุงปุ๊ย คิดเงิน ได้เงิน คิดทอง ได้ทอง สมความปรารถนาทุกสิ่ง

"ฝันที่เป็นจริง"

คม.200 - แป๊บเดียวถึงสองร้อยแล้วหรือเนี่ย

"โรคติดคอม" คือ อย่าเล่นนาน จนไม่ลืมหูลืมตา แบบคลั่งไคล้ อย่างบ้าคลั่ง
เช่น พวกชอบเล่นเกมบนเน็ต เล่นได้ทั้งวันทั้งคืน
"เสียเงิน เสียเวลา เสียสุขภาพจิต"
ถึงขั้น "ฆ่าตัวตาย" ตามข่าว ก็หลายคนแล้ว เป็นต้น

 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 202
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   jeeOneNine
 Posted : 15 พ.ค. 2552  เวลา 23:53:48   IP :(125.25.131.153)

  หนึ่งในใต้หล้า
 

 Sex :
 Post : 3394
 สมาชิกลำดับที่ : 162
ท่านPk..โรคติดจากคอม ก็มีนะ ที่เรียกว่า

"คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม"

คือมีอาการปวดที่กระดูกข้อมือ เจ็บปวดกล้ามเนื้อ หรือมักมีอาการปวดตา แสบตา ตามัว หากใช้สายตาจ้องหน้าจอนาน ๆ และบ่อยครั้ง ที่จะมีอาการปวดหัวร่วมด้วย

ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ของแต่ละคน และการติดตั้ง จัดวาง คีย์บอร์ด จอมอนิเตอร์ เม้าส์ เก้าอี้ ตลอดจนการปรับระดับแสง ที่ไม่เหมาะสม
เป็นได้จริงไหม? ท่าน ..ช่วยขยายความหน่อย ค่ะ

 

นกขมิ้นบินหลงทาง ^o^ ~geegee~ 19 เลขาเช้า 6/5
 Comment : 203
ชื่อสมาชิก jeeOneNine Mail to jeeOneNine
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 00:04:31   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
ถ้าจำไม่ผิด เคยโพสต์ลงไปแล้ว
ถ้าต้องการ ขอเวลาหาดูอีกครั้ง
ไม่แน่ใจว่า ยังอยู่ในสต๊อกหรือเปล่า?
เพราะข้อมูลด้านไอที โดนไวรัสเขมือบเกือบหมด

แต่ข้อมูลของแม่นกขมิ้นถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์

 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 204
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 00:07:01   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
เรื่องนี้ยังไม่เคยโพสต์

20 เคล็ดลับความปลอดภัยจากคอมพิวเตอร์ สำหรับผู้ปกครอง
1.วางคอมพิวเตอร์ในบริเวณที่มองเห็นได้ชัดเจน

2.กำหนดเวลาการใช้อินเตอร์เน็ตและอุปกรณ์สื่อสารกับสังคมอื่นๆ ทั้งหมด

3.ปรับปรุงซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยให้ทันสมัยอยู่เสมอ

4.กำหนดเว็บไซต์ที่บุตรหลานสามารถเยี่ยมชมได้ (สำหรับเด็กเล็ก)

5.ใช้การกรองยูอาร์แอล

6.ดาวน์โหลดบริการตรวจสอบชื่อเสียงและประวัติเว็บไซต์ รวมทั้งตรวจสอบเว็บไซต์ที่เด็กเยี่ยมชม

7.ตรวจสอบเนื้อหาและนโยบายความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของไซต์ที่เด็กเข้าเยี่ยมชมบ่อยครั้ง

8.พูดคุยกับลูกเกี่ยวกับการป้อนข้อมูลส่วนบุคคลทางออนไลน์

9.ห้ามไม่ให้บุตรหลานรับการติดต่อจากบุคคลที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อน

10.เรียกใช้การสแกนเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยของคุณ และตรวจเช็คประวัติ การท่องเว็บในบราวเซอร์

11.ใช้บริการแชร์ไฟล์ร่วมกันที่ถูกกฎหมายเท่านั้น

12.กำหนดโปรไฟล์เกี่ยวกับชุมชนเครือข่ายสังคมออนไลน์ให้เป็นส่วนตัว

13.ให้ใช้นามแฝง จงอย่าใช้ชื่อจริงเพื่อแสดงตัวตน

14.ระวังและโพสต์ข้อมูลอย่างชาญฉลาด

15.สนับสนุนให้เด็กให้ความเคารพต่อผู้อื่น

16.ตรวจสอบเว็บไซต์ก่อนที่จะอนุญาตให้เด็กซื้อสิ่งใดบนอินเตอร์เน็ต

17.สอนเด็กให้ใช้รหัสผ่านหลายชุดที่จะไม่เกี่ยวโยงถึงชื่อ ชื่อเล่นหรือข้อมูลที่พบได้ทั่วไปบนอินเตอร์เน็ต

18.ตรวจสอบชุมชนเครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นระยะๆ

19.ใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยฟรีให้เป็นประโยชน์เพื่อสแกนเครื่องคอมพิวเตอร์ของครอบครัว

20.ที่สำคัญที่สุดคือให้หมั่นบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส
และอันตรายล่าสุดบนอินเตอร์เน็ตให้บุตรหลานของคุณรับรู้


 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 205
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   jeeOneNine
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 00:13:43   IP :(125.25.131.153)

  หนึ่งในใต้หล้า
 

 Sex :
 Post : 3394
 สมาชิกลำดับที่ : 162
เครื่องมันร้อง เดี๋ยวก็ร้อง ร้องอยู่นั่น ขอเวลาไปจัดการไวรัส
หน่อยก่อน ..รวมยอดราตรีสวัสดิ์ ค่ำคืนนี้ที่ทนนั่ง ..ไม่ไล่..
ไม่เลิก ...แฟนพันธ์แท้ของชมรมคนนอนดึก ..ขอบคุณที่นำความรู้ และความสุขมาสู่ เพื่อน ๆ ทุกคน สวัสดีค่ะ

 

นกขมิ้นบินหลงทาง ^o^ ~geegee~ 19 เลขาเช้า 6/5
 Comment : 206
ชื่อสมาชิก jeeOneNine Mail to jeeOneNine
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 00:19:40   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
เป็นเหมือนกัน
ปิดเครื่อง บูทเครื่องใหม่ รอบสอง แล้ว
โอ้หนอ อนิจจัง อโหสิกรรม

 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 207
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 00:28:43   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
อย่าด่วนตัดสินคนอื่น

ส่วนใหญ่มนุษย์จะตัดสินคนอื่นๆ เร็วไป เพราะดูจากพฤติกรรมภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งไม่ควรและผิดพลาดได้ง่าย เช่น....

* อย่าตัดสินคนจน ว่าเขาต้องเป็นขโมยหรือขี้โกง

* อย่าตัดสินคนที่เรียนน้อยว่าเขาโง่

* อย่าตัดสินคนที่แต่งกายเชยๆ และบุคลิกไม่ดี ว่าเขาเป็นคนด้อยคุณภาพ

* อย่าตัดสินคนที่ไม่ทำงาน ว่าเขาเป็นคนขี้เกียจ

* อย่าตัดสินคนที่ไม่พูดกับเรา ว่าเขาเป็นคนหยิ่ง (เขาอาจหูหนวก ไม่ได้ยินเราพูดก็ได้)

* อย่าตัดสินคนที่พูดห้วนๆ กริยาห้าวๆ ว่าเป็นคนจิตใจกระด้าง ฯลฯ

ส่วนใหญ่เรามักตัดสินคนจากพฤติกรรมภายนอกที่เราไม่ชอบ เลยด่วนตัดสินว่าเขาไม่ดีและเป็นคนผิด

เราไม่มีสิทธิตัดสินใครๆ ว่าเขาไม่ดีและเป็นคนผิดหรอก เพราะเราไม่ใช่ผู้พิพากษา เราน่าจะนึกเพียงว่า เราไม่ชอบบุคลิกลักษณะบางอย่างของเขา...เท่านั้น และคงยิ่งจะทำให้ระมัดระวังในการตัดสินคนอื่น ให้มากขึ้น

 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 208
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 00:42:55   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
คบเพื่อนอย่างไร ไม่ให้เหงา

อย่าไปคาดหวังมากนักกับตนเองหรือคนอื่น ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น เก่งมาก-ดีมากแล้ว ถ้าเขามาเยี่ยมหรือไม่มาเยี่ยมก็เรื่องของเขา แต่เราต้องอยู่กับตัวเองให้ได้ โดยใช้หลัก 4 อย่าง คือ

1.รักตัวเองให้เป็น
2.ช่วยและพึ่งพาตัวเองให้เต็มที่
3.รักคนอื่น
4.และช่วยคนอื่น...ต่อไป

ส่วนใครจะรักเราช่วยเราหรือไม่นั้น เราคาดหวังไม่ได้ ไม่แน่นอนทั้งนั้น ถ้าไม่คาดหวังมากก็ไม่ผิดหวังมาก

แบ่งเพื่อนออกเป็น 3 แบบ คือ
* เพื่อนแบบที่ 1 เป็นเพื่อที่เราสร้างขึ้นมาในชาติปัจจุบัน คือเมื่อเรามีเงินทองชื่อเสียง เกียรติยศ อำนาจ เพื่อพวกนี้จะล้อมหน้าล้อมหลัง เพราะเขาชอบเงินทอง ชื่อเสียงเกียรติยศ อำนาจ ทำให้เราพลอยหลงตัวเองและมัวเมาไปกับมิตรภาพชั่วคราวแบบนั้น ถ้าเราไม่เกิดประโยชน์อีกแล้ว เขาก็จาก..จาง และหายไป จะกลับมาก็ยามต้องการความช่วยเหลือ
จึงต้องระวังตัวให้ดี อย่าหลงระเริงไปกับเพื่อนพวกนี้


* เพื่อนแบบที่ 2 เป็นเพื่อนที่เราได้มาจากกรรมในอดีตและปัจจุบัน คือ เป็นพวกที่มีความผูกพันกันลึกซึ้งกว่าพวกแรก แต่อาจจะนำความสุขหรือความทุกข์มาให้ก็ได้ ขึ้นกับชนิดของกรรมดีไม่ดีของเราที่ทำร่วมไว้กับเขา
เพื่อนพวกนี้ได้แก่ พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ คนรัก สามี-ภรรยา มิตรสหาย คนคุ้นเคยทำกรรมดีร่วมกันมาในชาติก่อน และสร้างกรรมดีต่อกันในชาตินี้
แต่บางคนก็นำความทุกข์และความเสื่อนทรามมาให้ พูดคุยกันไม่สนุก ไม่สนิท บางราย ทะเลาะวิวาทถึงขั้นทำลายหรือทำร้ายกัน ซึ่งถือว่าเคยทำกรรมไม่ดีต่อกันในชาติที่แล้ว ทำให้จองเวรถึงชาตินี้ และต้องใช้กรรมเก่ากัน และในชาตินี้ก็ไม่ได้ทำกรรมดีอีก จึงทุกข์ทรมานเมื่อต้องอยู่ด้วยกันและก็ไม่จากกันเสียที
เมื่อถึงคราวจากกันได้ ก็อย่างที่เรียกว่า หมดเวร...หมดกรรม นั้นแหละ...โล่งใจไปที บางคนกว่าจะจากได้ก็ต้องตายจากกัน

* เพื่อนแบบที่ 3 เป็นเพื่อนที่เกิดในชาตินี้และจะอยู่ติดตัวไปชาติหน้า ได้แก่ การทำกรรมดีและกรรมชั่วของเรา
ถ้าทำกรรมดี ก็ได้ผลดี ที่เรียกว่า ได้บุญ
ถ้าทำกรรมไม่ดี ก็ได้ผลไม่ดี ที่เรียกว่า ได้บาป
ฉะนั้น บุญและบาปที่เราสร้างในชาตินี้จะเกิดผลตั้งแต่ชาตินี้ และติดตัวไปถึงชาติหน้า
ถ้าทำบุญไว้มากในชาตินี้ ก็จะมีชีวิตที่เจริญและมีความสุขตั้งแต่ชาตินี้ ต่อไปถึงชาติหน้า
ถ้าทำบาปไว้มากในชาตินี้ ก็จะมีชีวิตที่ลำบาก ไม่มีความสุขตั้งแต่ชาตินี้ ต่อไปถึงชาติหน้าเช่นกัน

ขอให้เลือกเพื่อนที่เข้ามาคบหาและวางตัวให้ดี ขอให้เตรียมใจให้พร้อม อย่าหลงระเริงและอย่าคาดหวังมากกับเพื่อนแบบที่ 1 และ 2

ให้หมั่นสร้างเพื่อใหม่แบบที่ 3 ให้มากขึ้นเรื่อยๆ เถิด

ชีวิตจะมีความสุขและไม่เหงาด้วย

 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 209
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 00:52:05   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
สิ่งดีๆ ของชีวิต "กี่ถ่อมตน ถ่อมใจ"

การถ่อมตน ถ่อมใจนี้ เป็นของดีที่สุดอย่างหนึ่ง ถ้าใครเข้าใจและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของตนเองได้ ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ดีสุดอีกอย่างหนึ่งของชีวิต อยากให้ทุกๆ คนมีเอาไว้ติดตัว โดยเฉพาะในยามที่สังคมของเรากำลังมีวิกฤติ ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างในขณะนี้

คนที่จะสามารถถ่อมตน ถ่อมใจได้ จะต้องมีลักษณะดังนี้
1.จะต้องเป็นคนที่เชื่อว่าตัวเองมีค่า มีความสำคัญอยู่ในตัวเองตามความเป็นจริง
แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่เราก็ทำแล้ว เช่น การช่วยเหลือคนอื่น การช่วยสัตว์ การทำบุญ เป็นต้น
เมื่อนึกถึงบ่อยๆ จะเกิดความอบอุ่นใจและเชื่อว่าตัวเองมีความดี ความเก่งอยู่ในตัว โดยไม่รอให้ประสบความสำเร็จใหญ่หลวง ซึ่งเราอาจจะไม่ได้รับเลยในชีวิตก็ได้

2.รู้จัดเลือกคิด พูด กระทำ สิ่งที่เป็นพื้นฐานชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นมิตรกับคนอื่นได้ออกมา
คนที่พบเห็นกิริยานี้จะเกิดความเป็นมิตรและศรัทธาได้

3.คนที่ถ่อมตน ถ่อมใจได้แล้วนั้น จะมีลักษณะ
ไม่อวดดี ไม่อวดเก่ง ไม่อวดรู้ ไม่อวดรวย

4.สามารถมองเห็นความดี ความเก่ง ในตัวบุคคลอื่นๆ ได้ตามความเป็นจริงของเขาด้วย

5.สามารถเข้าใจความปกติของมนุษย์ทุกคนรวมทั้งตนเองด้วยว่า มีข้อบกพร่องไม่มีใครสมบูรณ์แบบ จึงทำให้เกิดความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจเพื่อมนุษย์ และเกิดการถ่อมตน ถ่อมใจได้ อยากเป็นมิตรและช่วยเหลือกันต่อไปได้

ลักษณะของคนที่ถ่อมตน ถ่อมใจได้นั้น ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นชัด ก็เหมือนคนที่ยืดอกขึ้นแล้วโค้งให้คนอื่นก่อนด้วยความเป็นมิตร และเห็นความดีในตัวคนอื่น

เขาจะได้รับการโค้งตอบมากกว่าคนที่ไม่โค้งให้คนอื่นก่อนแน่ๆ

เมื่อเราถ่อมตนได้แล้ว
* นำไปใช้ในการทำงาน ทำให้ได้มิตรภาพ จะมีคนช่วยเหลือ
* นำไปใช้ในภาวะเศรษฐกิจวิกฤติ ทำให้ไม่ฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ
* นำไปใช้ในกลุ่มเพื่อนและญาติ ทำให้ได้มิตรภาพ มีสามัคคีกันมากขึ้น
* นำไปใช้ในครอบครัวหรือคนรัก ก็จะมีคนรักเรามากขึ้น
* การถ่อมตน ถ่อมใจนี้ จึงเป็นของขวัญที่อยากมอบให้ทุกท่านด้วยความรัก


 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 210
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 00:59:53   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
ฉันทำชีวิตหาย

ชีวิตอันยิ่งใหญ่เกิดเป็นความทุกข์ขึ้นมาเพราะสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เสมอ สิ่งเหล่านั้นได้แก่

1.นึกถึงปัญหามากไป บางทีมีเพียงปัญหาเดียว แต่คิดซ้ำๆ เกี่ยวกับปัญหานั้น จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ไม่จบสิ้น และมีความทุกข์มาก จำไว้ว่าปัญหามีไว้ทำลาย ไม่ใช่มีไว้คิด

2.ขาดเป้าหมายชีวิต จะทำอะไรก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม เพื่ออะไร เหมือนไม่ได้อยากได้อะไร เพราะไม่รู้ว่าจะอยากได้ไปทำไม ไม่มีแรงบัลดาลใจ ขาดศรัทธาในชีวิต มนุษย์จำเป็นต้องมีเป้าหมายชีวิต และควรตั้งเอาไว้หลายๆ อย่าง หลาย ๆ ด้าน แล้วพยายามพิชิตมันทีละอย่าง
ผลออกมาก็สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ให้พยายามพิชิตเอาไว้
เพราะเป้าหมายมีไว้พิชิต ไม่ใช่มีไว้ดูเฉย ๆ

3.รักและเมตาคนอื่นมากไป จะเกิดเป็นอคติ เข้าข้าง เอาใจช่วยเขาทุกอย่างแม้เขาจะทำผิด
ความรักและเมตตามากๆ นี้ ถ้าใช้กับลูกก็จะได้ลูกที่ขาดวินัย เอาแต่ใจตัวเอง เสียเด็ก
ถ้าใช้กับแฟน คนรัก เขาก็จะเหลิง ได้ใจ และไม่เห็นคุณค่าของเรา อาจจะรำคาญเราด้วยซ้ำ
ถ้าใช้กับเพื่อมนุษย์ทั่วไป เขาอาจจะไม่เกรงใจ ลืมเกียรติ
จึงจำเป็นจะต้องมีการวางเฉย หรือ "อุเบกขา" เป็นตัวกำกับ
นั้นก็คือ ต้องมี "อุเบกขา"
เท่ากับเราปล่อยให้เขาได้มีช่องว่างที่เป็นความอิสระของชีวิตของเขา ได้มีโอกาสแสดงความสามารถ และได้ช่วยตัวเองในบางเรื่อง ซึ่งอาจจะทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ไม่เป็นไร เขาจะได้รู้ว่า อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เขาจะได้ประเมินศักยภาพตัวเองได้ถูกต้อง

4.ขาดลักษณะของคนที่ประสบความสุขและความสำเร็จ สังเกตดูซิ คนที่ประสบความสำเร็จมักจะมีลักษณะดังนี้ คือ
หัวเราะบ่อย และ มีความรักให้เพื่อนมนุษย์เสมอ
ถึงไม่ค่อยมีความสุขและความสำเร็จนัก แต่ถ้าเราหัวเราะบ่อยๆ และมีความรักในใจเสมอก็เท่ากับเราดึงความสุขและความสำเร้จมาใส่ตัวเราได้มากขึ้น

5.ขาดความใส่ใจในสิ่งที่ทำ การงาน : จะทำให้ตัวเองมีค่า มีเงินใช้ มีความรับผิดชอบ เพิ่มวุฒิภาวะ
ความรัก : ทำให้มีความสุข มีกำลังใจ จงใส่ใจที่จะรักคนทุก ๆ คน มากน้อยก็ได้ แต่ให้รักเอาไว้ก่อน
ชีวิต : ทำให้มีโลกนี้ อยากมีชีวิตอยู่ และอยากทำความดีเพื่อโลกในอนาคตต่อไป เรื่องของชีวิตถ้าศึกษาใส่ใจมากขึ้น จะต้องใส่ใจทั้งเรื่องร้างกาย (วัตถุ) จิตใจ (ความคิด ความรู้สึก ทัศนคติ) และจิตวิญญาณ (สิ่งที่จะต่อเชื่อมกับชีวิตในอนาคต เป็นเรื่องของการพัฒนาความดีและคุณธรรม)
ถ้าเราใส่ใจทั้ง 3 อย่างนี้ จะทำให้เราก้าวหน้าไปสู่จุดหมายได้มากขึ้น

6.ขาดการถ่อมตน ถ้าอยากมีมิตรมากขึ้น ไม่อยากใครเกลียด ก็ให้ถ่อมตนและเปิดใจสร้างมิตรให้มากขึ้น เช่น ยิ้มแย้ม ทักทาย ชมเชย ละช่วยเหลือเขาก่อน
การถ่อมตนจะทำให้เราเห็นคุณค่าของตนเองและคนอื่นตามความเป็นจริง สามารถเปิดใจรักคนอื่นได้ก่อน โดยไม่เรียกร้องให้เขารักเราก่อนอย่างที่ผ่านๆ มา
สังเกตดูซิดูซิครับ มหาสมุทรตั้งอยู่ในที่ต่ำ จึงเป็นที่รวบรวมแหล่งน้ำได้ตลอดปีตลอดกาล ส่วนยอดเขาสูงเสียดฟ้า ไม่สามารถเก็บน้ำได้เลยสักนิด
ฉะนั้น ถ้าใครอยากมีมิตร มีความสุข ต้องหัดถ่อมตนเองไว้เสมอ

ทั้ง 6 ข้อดังกล่าวนี้ เป็นข้อบกพร่องที่พบได้บ่อยของทุกๆ คน เป็นเพราะเราลืมคิด หรือนึกไม่ถึง ถ้าใครพยายามเติมให้เติมให้เต็ม หรือพัฒนาบกพร่องเหล่านี้ได้ ก็เท่ากับคุณช่วยเติมชีวิตของคุณได้มากขึ้น

ชีวิตก็จะไม่ขาด ๆ หาย ๆ อีกต่อไป

 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 211
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 01:18:55   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
ใครจะมาเติมชีวิตเราให้เต็มได้

1. การจะหาใครสักคนมาเติมเต็มชีวิตของใครอีกคนให้เต็มนั้น หาไม่ได้หรอก
อาจจะมีได้ในช่วงแรกๆ แว่บแรกๆ ของความรัก ที่มีสารเคมีของความพิศวาสซาบซ่า (ฟิโรโมนและออกซิโทซิน) กำลังหลั่ง จากนั้นก็จะดูแลว่าเขาไม่ใช่คนที่มาเติมให้เต็มแล้ว เพราะเราเริ่มใช้เหตุผลและความเป็นจริงได้มากขึ้น จึงพบความแตกต่างและข้อบกพร่องได้มาก

2. การจากกันในขณะที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไม่พร้อมจะจาก จะทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีสิ่งที่ขาดหายไปมากขึ้น
ใครยิ่งคิดถึง "ความหายไป" มากเท่าไหร่ จะยิ่งรู้สึกว่า ชีวิตมีส่วนที่พร่องไปมากเท่านั้น

3. ให้เปลี่ยนมุมมองและมุมความคิดเสียใหม่
เราสามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเองแท้ๆ มากกว่าที่จะหวังพึ่งใครสักคนที่จะมาเติมชีวิตให้เต็ม

4. อย่ามองหาสิ่งที่ขาดในชีวิต
แต่จงมองส่วนที่คุณมีอยู่ แล้วเราจะไม่คิดถึงสิ่งที่ขาด

5. อย่าเปรียบเทียบชีวิตกับคนอื่น
เพราะคนส่วนมากมักจะเปรียบเทียบเฉพาะส่วนที่เราขาด กับส่วนที่คนอื่นมี

มันยุติธรรมกับตัวเองไหมเล่า? เราจะยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีความขาดมากขึ้น ทุกข์มากขึ้นด้วย

6. ลดทิฐิ ความอยากเอาชนะคนอื่น
ทั้งกับเพื่อน ญาติ และคนอื่นทั่วไป เพราะจะทำให้เกิดการเปรียบเทียบที่เอาจริงเอาจัง เมื่อพบว่ามีบางอย่างที่ตัวเองไม่มี แต่คนอื่นมี ก็จะอิจฉาริษยาเขา หมดความสุข ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี และไม่สามารถจะมีในสิ่งที่คนอื่นมีได้

จึงแลดูว่าชีวิตมีแต่ความพ่ายแพ้ เพื่อน ญาติ หรือคนอื่นๆ เหล่านั้นตลอดไป จะมีทุกข์มากขึ้น

7. จงยอมรับให้ได้ว่า ตัวเราแตกต่างจากชีวิตคนอื่น
ซึ่งเป็นความปกติ ถ้าดื้อดึงคิดว่าจะต้องเหมือนกันหรือเท่ากันทุกอย่าง แสดงว่าเริ่มคิดไม่ถูกต้องแล้ว

8. ให้หัดวิเคราะห์ "ความอยากได้" ของเรานั้น อาจไม่จำเป็นอะไรเลย
อาจมาจากความคาดหวังที่สูงเกินไป หรือจินตนาการมากไปก็ได้ แม้แต่ความอยากได้ "รักแท้" หรือ "คนดีๆ ที่มีใจให้สักคน" ก็ไม่รู้ว่าในความเป็นจริงจะเป็นได้แค่ไหน

9. ฝึกความอดทน อดกลั้น เชื่อในหลักกฎแห่งกรรม
และทำความดีตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิต โดยเชื่อว่าในอนาคตชีวิตของเราจะดีขึ้น

10. อยากทำอะไรก็ให้รีบทำซะ
ถ้าสิ่งนั้นไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรม ท่านพุทธทาสเคยกล่าวว่า ให้คิดว่าทุกวันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต จะได้ไม่ประมาท ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง

อย่ามัวรอ...คนที่จะมาเติมเต็มชีวิตให้เราเลย

แล้วเราจะพบความมีในสิ่งที่ไม่มี พบความเต็มในสิ่งที่ขาดได้เอง

 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 212
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 01:22:30   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
แม่นกขมิ้น หายไปนานผิดสังเกต ไหนว่าคืนนี้ "ไม่ไล่ ไม่เลิก"
คืนนี้ พอหอมปาก หอมคอ เท่านี้ก่อน

 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 213
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 01:33:15   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
คลิ๊กที่ภาพ



 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 214
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   pk
 Posted : 16 พ.ค. 2552  เวลา 01:41:24   IP :(222.123.116.246)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332
คลิ๊กที่ภาพ



 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 215
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

1 2 3

ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เมื่อ Login เข้าสู่ระบบสมาชิก

 © Copyright 2008 arpakorn.com All Right Reserved. Contact >> admin@arpakorn.com 
can't connect to server