ศูนย์รวมพบปะสังสรรค์ ชาววังสน ทุกรุ่น ศูนย์รวมพบปะสังสรรค์ ชาววังสน ทุกรุ่น
:: ศูนย์กลางพบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความรู้, ถาม-ตอบ, แนะนำ, ประกาศ, พวกเราชาววังสน ::

:: ท่านที่มาเยี่ยมชมเป็นครั้งแรก กรุณาสมัครสมาชิกก่อนครับ ::

 


Home  กลับหน้าหลัก  สมัครสมาชิก  ตั้งกระทู้ใหม่  แก้ไขข้อมูลสมาชิก  ลืมรหัสผ่าน  พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์



ขอเชิญร่วมตอบกระทู้ครับ



  วันละครั้ง ฟังเรื่องราว โน้มน้าวบันดาลใจ ให้คติข้อคิด--- An Inspirational Story, One Day at a Time&a
   Tamrak
 Posted : 02 ก.พ. 2552  เวลา 03:06:02

  ศิษย์น้อยฝึกวิชา
 

 Sex :
 Post : 159
 สมาชิกลำดับที่ : 64
สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เซียงเงี๊ยบฮ้อ ทุกท่าน,

ผมได้แปลเรื่องราวที่ดลบันดาลใจให้ข้อคิด ซึ่งได้รับทางอีเมล์ ลงไปไว้ในกระทู้ของรุ่นผมทุกวัน มีพี่ๆ และเพื่อนๆ หลายคนได้เข้ามาอ่าน และให้กำลังใจชมเชยต่อผลงาน. ผมก็มีความคิดที่ว่า ควรจะ เปิดกระทู้ใหม่ แล้วเริ่มโพสต์ลงไปในกระทู้นี้แทน เพื่อท่านทั้งหลายจะได้อ่าน และนำไปใช้เป็นข้อคิดประจำวันได้บ้าง. บางวัน เราก็ต้องการกำลังใจ ที่จะผจญต่อสู้กับเรื่องต่างๆ ที่เข้ามาสู่ในชีวิตของเรา. ผู้เขียนในบางเรื่องนั้น, ท่านก็เป็นบุคคลที่มีความศรัทธาต่อทางศาสนาของท่านมาก. ผมจะพยายามใช้คำที่ถูกต้อง ไม่เป็นการลบหลู่ศาสดาของศาสนาใดๆ.

การโพสต์วันแรกนี้ จะรวมทุกอย่างที่เคยแปลไว้ มาใส่ไว้ในกระทู้นี้

ในคราวต่อไป ผมก็จะโพสต์ลงในกระทู้นี้ตลอด. ผมจะพยายามแปลให้ได้ วันละหนึ่งเรื่อง. อันนี้อยู่กับว่า งานที่ทำอยู่นั้น จะมีมากแค่ไหน. การแปลนั้น ผมทำในช่วงพักกลางวันในวันทำงานของผม คือ วันจันทร์ ถึงวันศุกร์. ถ้าผมติดธุระหรือลาพักร้อน ก็คงจะหยุดแปลเรื่องสักพัก กลับมาแล้วก็จะแปลต่อไปใหม่.

ปรกติแล้ว เวลาที่ผมแปลข้อความต่างๆ จะมีภาษาอังกฤษต้นฉบับ กำกับไว้อยู่ด้วยเสมอ. แต่เพราะว่ามีปัญหาเรื่อง characters limitations ผมจึงโพสต์แต่ภาษาไทยลงมาอย่างเดียว ประโยคบางประโยค เป็นคำสแลง ซึ่งถ้าแปลตรงๆ ตัว มันจะไม่เป็นไปตามที่เขาเขียน ผมก็แปลจากสแลงให้เป็นภาษาไทยโดยเรียบร้อย อาศัยที่ว่า อยู่ที่นี่มาหลายปี ก็คิดว่า ควรจะมีความหมายจริงๆ ว่าเป็นเช่นไร.

เชิญติชมได้ตามสบาย ขอบคุณมากครับ สวัสดี.


ทบพร, พ.พ. 14971, ปวช ปีการศึกษา 2519; 4/1; 5/5; 6/4 เลขานุการ (เช้า)

St. Louis, Missouri, USA


2 กุมภาพันธ์ 2552


 

14971, ปวช 2519; 4/1; 5/5; 6/4 เลขานุการ (เช้า) - ตอนนี้อยู่ที่ St. Louis, Missouri, USA, ราวๆ หนึ่งหมื่นกิโลเมตร จากถิ่นสีฟ้าขาวของชาววังสน
  IP : (70.238.161.124)
ชื่อสมาชิก Tamrak Mail to Tamrak
แสดงความคิดเห็น

   pk
 Posted : 04 ก.ย. 2552  เวลา 21:26:15   IP :(117.47.159.89)

  โคตรเซียน
 

 Sex :
 Post : 5845
 สมาชิกลำดับที่ : 332

<<- - ไฟล์ Flash นี้มีขนาดเกิน 400 Pixel คลิ๊กเพื่อดูขนาดจริง - ->>




 

มาดมั่น มาดแมน
 Comment : 106
ชื่อสมาชิก pk Mail to pk
กลับขึ้นด้านบน

   jeeOneNine
 Posted : 05 ก.ย. 2552  เวลา 10:53:40   IP :(125.25.148.229)

  หนึ่งในใต้หล้า
 

 Sex :
 Post : 3394
 สมาชิกลำดับที่ : 162

ความหวัง.... ยังเลือนลาง...แต่....รอได้...และได้รอ...
หวังไว้ว่า..วันหนึ่ง..คงคิดถึงเพื่อน ๆ บ้าง...


 

นกขมิ้นบินหลงทาง ^o^ ~geegee~ 19 เลขาเช้า 6/5
 Comment : 107
ชื่อสมาชิก jeeOneNine Mail to jeeOneNine
กลับขึ้นด้านบน

   jeeOneNine
 Posted : 14 ก.ย. 2552  เวลา 08:03:03   IP :(125.25.94.123)

  หนึ่งในใต้หล้า
 

 Sex :
 Post : 3394
 สมาชิกลำดับที่ : 162
คลิ๊กที่ภาพ


เพื่อนกัน...ลืม..กัน..ซะ..แล้ว..หรือ


 

นกขมิ้นบินหลงทาง ^o^ ~geegee~ 19 เลขาเช้า 6/5
 Comment : 108
ชื่อสมาชิก jeeOneNine Mail to jeeOneNine
กลับขึ้นด้านบน

 lakelake
 Posted : 22 ก.ย. 2552  เวลา 10:25:07   IP :(125.25.18.29)
ติดตามอ่านเหมือนกัน
รอเหม่งเซ็งมาร่ายแรงดลใจ

 
 Comment : 109
กลับขึ้นด้านบน

   UmdangAoy
 Posted : 22 ต.ค. 2552  เวลา 11:25:17   IP :(125.24.137.185)

  ปรมาจารย์
 

 Sex :
 Post : 3864
 สมาชิกลำดับที่ : 3
คลิ๊กที่ภาพ

           "Butterfly story"

      ในระหว่างทานข้าวกลางวัน วนิดาซึ่งเป็น CEO ถามกิตติผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งที่รายงานตรงต่อเธอว่า

“กิตติ..พี่สังเกตว่าคุณไม่เคยปิดมือถือเลย แม้กระทั่งเวลาประชุม แล้วพี่ก็เห็นคุณขอตัวออกไปจากที่ประชุมกลางคันเพื่อรับโทรศัพท์ พี่อยากรู้ว่าเป็นโทรศัพท์ของใครหรือ ทำไมมันสำคัญขนาดรอจนจบประชุมไม่ได้ พี่เห็นเป็นประจำเลยนะ”


กิตติมีท่าทีอึดอัด เขาตอบว่า
“ไม่มีอะไรหรอกครับ เรื่องส่วนตัวนะครับ ผมขอโทษ”
วนิดายิ้มแบบผู้ใหญ่ใจดี เธอเงียบไปสักครู่จึงพูดต่อ
“กิตติ เราสองคนทำงานด้วยกันมาพอสมควร คิดว่าพี่
เป็นพี่สาวของคุณก็ละกัน เพราะพี่อายุมากกว่าคุณสองสามปี
มีอะไรก็เล่าสู่กันฟังซิคะ เผื่อว่าพี่อาจจะแนะนำอะไรให้ได้บ้าง”


     วนิดาเลือกใช้แนวทางพี่น้อง แทนที่เธอจะตำหนิเขาโดยตรง ในเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่ประชุมแบบเจ้านายกับลูกน้อง วิธีนี้ได้ผล ! กิตติสารภาพออกมาแบบกระอักกระอ่วน

“ก็ ... คือว่า ... พี่อย่าโกรธผมนะครับ มันเป็นโทรศัพท์มาจากลูกสาวผมเอง เธอเพิ่งไปเรียนไฮสคูลที่ออสเตรเลียเมื่อไม่กี่เดือน โรงเรียนที่ลูกสาวผมเรียนนี้ค่อนข้างจะเข้มงวด แถมมีการบ้านจมเลย ตอนลูกสาวผมเรียนที่นี่
ผมช่วยติวและทำการบ้านร่วมกับเธอบ่อยๆ ลูกคนเดียวเธอคือดวงใจของผมเลยครับ ผมบอกเธอว่าไปอยู่นั่น ติดขัดเรื่องการบ้านละก็โทรมาหาผมได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะเป็นเวลาใด
ผมจะคอยช่วยเหลือเธอผมไม่ต้องการเห็นเธอล้มเหลว
ตอนค่ำเมื่อกลับบ้านผมก็แทบจะไม่ได้พักผ่อน แต่จะไป
ช่วยเธอทำการบ้านแล้วก็แฟ็กซ์ส่งไปเรื่องคณิตศาสตร์บ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง ผมอยากให้เธอประสบความสำเร็จ
ผมต้องขอโทษที่บริหารเวลาไม่ค่อยได้เรื่อง”
...กิตติจบเรื่องลงด้วยท่าทีละอายใจ

วนิดาแสดงความเห็นใจ
“เรื่องของคุณมันฟังแล้วคุ้น ๆ มากเลย พี่พอจะจินตนาการ
ออก ถึงความลำบากใจของเธอ พี่เองก็มีลูกสาวเรียนปริญญาโทอยู่ที่อเมริกา พี่เคยทำแบบคุณเหมือนกัน เพราะลูกสาวพี่จบตรี แล้วไปต่อโทเลย จึงไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน ดังนั้นพอทำกรณีศึกษาก็มักจะ ไม่ทันเพื่อนเขา หรือไม่เข้าใจ แถมยังไม่กล้าถามอาจารย์อีก พี่เลยต้องช่วยทำเคส แล้วก็อีเมล์ไปให้เธอ แต่ว่าตอนนี้พี่หยุดช่วยเธอแบบนั้นแล้วล่ะค่ะ”


กิตติ ถามด้วยความประหลาดใจ
“ทำไมล่ะครับ พี่ไม่รักเธอแล้วหรือ หรือว่าพี่เห็นว่างานมีความสำคัญกว่าครอบครัวครับ”

วนิดาตอบพร้อมกับยิ้มอย่างอารมณ์ดีว่า


“พี่ยังรักลูก และเห็นคุณค่าของครอบครัวและงานเหมือนเดิม พี่โชคดีที่มีเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่ง เขาสังเกตเห็นวิธีที่พี่ช่วยลูกสาว แล้ววันหนึ่งเขาก็ให้หนังสือเล่มหนึ่งชื่อ The Power of Failure โดย Charles C. Manz และมีการแปลเป็นไทยในชื่อ วิกฤติคือโอกาส โดยพสุมดี กุลมา เรียบเรียงโดย นราทิป นัยนา เพื่อนอเมริกันเขาคั่นเรื่อง ๆ หนึ่งให้พี่อ่านโดยเฉพาะเลย พี่จะเล่าให้เธอฟัง”

"...มีชายคนหนึ่งนั่งมองผีเสื้อที่กำลังดิ้นรนจะออกจากรังไหม เจ้าผีเสื้อดิ้นรนไปซักพัก จนกระทั่งใยรังไหมเริ่มขาดเป็นรูเล็กๆ ชายคนนั้นมองด้วยความสนใจ เจ้าผีเสื้อดูเหมือนจะหยุดไป ที่จริงผีเสื้อมันพักเพื่อที่จะดิ้นรนต่อไป แต่ว่าชายคนนั้นคิดไปเองว่าผีเสื้อคงติดใยรัง ไหม ไม่สามารถจะออกมาได้ด้วยตนเอง ด้วยความหวังดี เขาจึงนำกรรไกรขนาดเล็กมาตัดใยรังไหมนั้น ทำให้รูมันขยายใหญ่ขึ้น เจ้าผีเสื้อเห็นรูขยายใหญ่ขึ้นมันก็คลานต้วมเตี้ยมออกมา แต่เขาสังเกตว่าตัวมันมีขนาดเล็กกว่าปกติ ปีกเหี่ยวย่น แถมลำตัวของเจ้าผีเสื้อก็มีลักษณะบวมผิดปกติกลายเป็นว่าในขณะที่ผีเสื้อต้องดิ้นรนออกแรงตะเกียกตะกาย เพื่อพยายามจะดันตัวมันออกจากรังไหมนั้น
เป็นกระบวนการธรรมชาติที่จะกระตุ้นให้ของเหลวชนิดหนึ่ง
ที่อยู่ในลำตัวผีเสื้อเคลื่อนที่มาสู่ปีก เพื่อทำให้ปีกแข็งแรงเพียงพอจะบินได้ ด้วยความปรารถนาดีของชายคนนั้น ผีเสื้อตัวนี้ปีกจึงเหี่ยวย่นไม่แข็งแรงเพียงพอจะบินได้ แถมยังมีรูปร่างพิกลพิการ เพราะของเหลวที่ควรจะอยู่ที่ปีก ดันไปติดคั่งค้างอยู่ที่ลำตัว เจ้าผีเสื้อตัวนี้ออกจากใยมาได้ด้วยความสบาย แต่ต้องพิกลพิการ และบินไม่ได้ไปชั่วชีวิตของมัน ...."


"...อุปสรรคและความล้มเหลวในชีวิตของคน ก็คล้ายๆกันกับสิ่งที่เจ้าผีเสื้อเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ ความก้าวหน้าในชีวิต การพัฒนาทักษะ ความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น ล้วนแล้วแต่น่าสงสารและน่าเห็นใจ แต่จะได้คุณค่ามาก็ด้วยการล้มเหลวอย่างถูกวิธี เราจะคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต โดยไม่มีความล้มเหลวนั้นเป็นไปไม่ได้

เมื่อเราเผชิญอุปสรรค แล้วเราหลีกเลี่ยงที่จะแก้ไขหรือต่อสู้กับมัน เท่ากับว่าเรากำลังเสียโอกาสสำคัญในการเรียนรู้บทเรียนที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในชีวิตของคน ..."


กิตติฟังด้วยความสนใจ
“โอ้โฮ เรื่องนี้จุดประกายน่าดูครับ แต่ผมกลัวว่าลูกผมจะเกลียดผมนะซีครับ”

วนิดาเสริมต่อ
“ มีคำพูดที่ว่า "No pain No gain" "ไม่เจ็บ ไม่ได้เรียนรู้"
ที่จริงพวกเรานะผิดเองที่ป้อนลูกๆ เรามากไป สำหรับกรณี
ของพี่ พี่อธิบายให้ลูกเขาเข้าใจด้วยการเล่าเรื่องนี้แหละ หลังจากนั้น พี่ก็ขอโทษสำหรับการให้ความช่วยเหลือลูกแบบผิด ๆ ในอดีต ลูกๆ ของเราเขาฉลาดพอจะเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้นะ ... กิตติ คุณลองมองไปรอบ ๆ ตัวเราสิ


"...เรามีพนักงานที่มีความรู้ มาจากครอบครัวที่มีฐานะ หลายคนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ พวกเขาไม่อดทนต่อปัญหาและอุปสรรค คนที่ควรถูกตำหนิคือ พ่อแม่ของเขา คุณอยากถูกคนอื่นเขาต่อว่าแบบนี้ในอนาคตไหมล่ะ แถมลูก ๆ ของเรายังอ่อนแอไม่สามารถจะฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคได้....
คุณมีสิทธิ์เลือกนะ …”


 

~* นกนางนวล บินทวนลม *~ พ.พ. ๒๕๑๙*
 Comment : 110
ชื่อสมาชิก UmdangAoy Mail to UmdangAoy
กลับขึ้นด้านบน

1 2

ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เมื่อ Login เข้าสู่ระบบสมาชิก

 © Copyright 2008 arpakorn.com All Right Reserved. Contact >> admin@arpakorn.com 
can't connect to server